ครีมเสริมฤทธิ์
เอนไซม์ปาเปน (Linked Papain)
- จุดเด่นของเอนไซม์ปาเปนที่ใช้ในตำรับคือ ตัวเอนไซม์จะคงอยู่บนผิวเพื่อออกฤทธิ์ได้นานกว่า เอนไซม์ที่ใช้ในเชิงการค้าทั่วไป ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมกันเป็นโครงข่าย (Cross Linked) ทำให้มีน้ำหนักโมเลกุลเพิ่มขึ้น** ซึ่งการคงอยู่บนผิวที่นานขึ้น เป็นหัวใจสำคัญของสารออกฤทธิ์ประเภทผลัดเซลล์ผิวยังช่วยควบคุมไม่ให้เอนไซม์ลงลึกสู่ชั้นผิวมากเกินไป จึงปลอดภัยไม่ก่ออาการแพ้
- เอนไซม์นี้ออกฤทธิ์สลายโปรตีนที่ยึดจับกันบริเวณชั้นหนังกำพร้า ทำให้ผิวหนังผลัดเซลล์ใหม่ได้เร็วขึ้นการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรด (เคมี) หรือด้วยวิธีการขัดถู (กายภาพ) แม้ใช้กับผิวที่แพ้ง่าย
- ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติของผิวมนุษย์ เพียงแต่มีปาเปนช่วยเร่งปฏิกิริยาเท่านั้น จึงอ่อนโยนกว่า
- เซลล์ผิวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาแทนเซลล์เดิม มีความสมบูรณ์สดใหม่กว่า ทั้งนุ่ม และเรียบเนียน ช่วยต่อสู้กับผิวที่ถูกแสงแดดจนหมองคล้ำ หรือริ้วรอยที่เกิดจากอายุ
Note: ** น้ำหนักโมกุลโดยทั่วไปของเอนไซต์ปาเปนคือ 23,000 ดาลตัน เพิ่มเป็น 900,000 ดาลตัน เมื่อผ่าน
การ Cross linked
ผลวิจัยอ้างอิง
จุดประสงค์การวิจัย: เพื่อวัดผลการผลัดเซลล์ผิว หลังจากที่ผิวถูกกระตุ้นให้เปลี่ยนแปลงไป (ผิวสีแทน)
วิธีการทดลอง:
- ทาครีมที่มี Dihydroxyacetone (DHA) = 2% ซึ่งทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทน** โดยทาบริเวณแขน 1 คืน
- ทา 5 จุด จนเกิดรอยผิวสีแทน และถ่ายภาพไว้เพื่อเปรียบเทียบผล ดังภาพที่ 1
จากนั้นทาโลชั่นที่มีเอนไซม์ปาเปน ความเข้มข้นต่างๆกัน ติดต่อกัน 3 วัน (1ครั้ง/วัน) ดังภาพที่ 2
ผลการทดลอง: จะเห็นว่าตั้งแต่ จุดที่ 3 ถึง จุดที่ 5 จางลงตามลำดับ เนื่องจากมีการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป รอยผิวสีแทนจึงจางลง โดยเฉพาะจุดที่ 5 ซึ่งใช้ความเข้มข้นสูงสุด ตามตำรับที่ใช้ใน Enzo
Note: ** รอยผิวสีแทน ที่ได้จากปฏิกิริยา DHA นั้นคือ เม็ดสี Melanoidins ซึ่งคล้ายกับ Melanin ที่เกิดจากผิวหนังถูกแสงแดด
- 4-n-butylresorcinol in Liposome
- บิวทิวรีซอซินอล เป็นตัวยับยั้งเอนไซต์ไทโรซิเนสที่แรงที่สุด ยังออกฤทธิ์จับกับกรดไขมันใต้ผิว เพื่อให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเม็ดสีผิว ไปอยู่ชั้นผิวได้ และยังสามารถต่อต้านการเกิดฝ้าแดดได้ ซึ่งให้ผลเรื่องผิวขาวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ในคนผิวสี โดยให้ผลที่ดีกว่า วิตามิน ซี, โคจิก แอซิด, และอาบูติน ในเรื่องยับยั้งการสร้างเม็ดสี
- บิวทิวรีซอซินอล ที่ใช้ในตำรับ Enzo นั้นไม่ใช่รีซอซินอลที่ใช้ในยาย้อมผม จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัย
- เหมาะที่จะใช้กับคลินิค หลังการทำเลเซอร์
ผลวิจัยอ้างอิง
Reference: Journal of the European Academy of Dermatology and Venereology
ผลการศึกษาที่ 1 : เรื่องการยับยั้งเม็ดสี โดยวัดจากกิจกรรมของเอนไซม์ไทโรซิเนส ระหว่างที่ทำปฏิกิริยากับบิวทิวรีซอซินอล เทียบกับโคจิกแอซิด อาบูติน และไฮโดรควิโนน ที่ความเข้มข้นต่างๆกัน เพื่อให้สามารถคำนวณค่า IC50 ได้ ดังกราฟที่ 1
(ค่า IC50คือค่าการยับยั้งของ ตัวยับยั้งไทโรซิเนส ที่ความเข้มข้น 50%)
กราฟที่ 1 เปอร์เซ็นต์การยับยั้งไทโรซิเนส ของบิวทิวรีซอซินอล เปรียบเทียบกับตัวยับยั้งอื่นๆ
สรุปโดยย่อ
แนวคิดใหม่ในการผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง การออกฤทธิ์ให้ผิวขาวด้วยการยับยั้งเม็ดสี พร้อมกับการเร่งผลัดผิวเก่าที่หมองคล้ำออกไป ช่วยเร่งความว่องไวของปฏิกิริยาได้ดี จนผิวขาวขึ้นอย่างสังเกตได้ ซึ่งบิวทิวรีซอซินอลเป็นตัวยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่แรงที่สุด ยังออกฤทธิ์จับกับกรดไขมันใต้ผิว เพื่อให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเม็ดสีผิว ไปอยู่บนชั้นผิวได้ และยังสามารถต่อต้านการเกิดฝ้าแดดได้ ให้ผลเรื่องผิวขาวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ในคนผิวสี จุดเด่นของเอนไซม์ปาเปนที่ใช้ในตำรับคือ ตัวเอนไซม์จะคงอยู่บนผิวเพื่อออกฤทธิ์ได้นานกว่าเอนไซม์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ทั่วไป ซึ่งการคงอยู่บนผิวที่นานขึ้น เป็นหัวใจสำคัญของสารออกฤทธิ์ประเภทผลัดเซลล์ผิว ยังช่วยควบคุมไม่ให้เอนไซม์ลงลึกสู่ชั้นผิวมากเกินไป จึงปลอดภัยไม่ก่ออาการแพ้